1691 จำนวนผู้เข้าชม |
คู่มือ การใช้งาน ยานพาหนะไฟฟ้า POLAIVEN Rev. 1 Mar 2024 (1/2)
(คู่มืออัพเดทล่าสุด สามารถดาวน์โหลดได้www. polaiven.com)
เรียนผู้ใช้ยานพาหนะไฟฟ้าของ Polaiven(อ่านว่า "โพไลเว่น") ขอขอบพระคุณที่เลือกรถจักรยานไฟฟ้าแบรนด์โพไลเว่น เมื่อท่านจะใช้ยานพาหนะนี้ โปรดอ่านคู่มือนี้ก่อน ทำความคุ้นเคยกับข้อกำหนดการใช้ งานยานพาหนะ และใช้อย่างถูกต้องตามที่กำหนด เนื่องจากชิ้นส่วนยานพาหนะทั้งหมดของรถจักรยานไฟฟ้า โพไลเว่น นั้น เป็นชิ้นส่วนมาตรฐานที่ กำหนดโดยโรงงาน ที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณรักษาสมรรถนะของยานพาหนะได้ดี คู่มือนี้ใช้กับยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภทของเรา ทั้งสกูตเตอร์ จักรยานไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ซึ่งบางฟังก์ชั่นอาจไม่มี ในแบบที่ลูกค้าเลือก ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือแนะนำพิเศษมาที่ไลน์ OAของเรา เพื่อปรับปรุงต่อไป และเพื่อให้ผู้ใช้งานใหม่ สามารถศึกษาการใช้งานของสินค้า และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ได้อย่างง่ายดาย เมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเรา ในกรณีบริษัทอื่น ผู้ขายรายอื่นสามารถศึกษาคู่มือของเราได้ เพื่อสร้างโลกนี้ให้มีความปลอดภัย ผู้ใช้งานได้รับความรู้ที่ถูกต้อง สามารถแชร์บทความนี้ หรือคู่มือนี้ได้ เรายินดีเป็นพันธมิตรคู่ค้ากับทุกแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศ
คำเตือนพิเศษ
3.กรณีซ่อมแซม ผู้ใช้งาน/ลูกค้า ต้องการดัดแปลงเองหรือให้ร้านค้าอื่นที่ไม่ใช่พันธมิตรของเรา ถอดประกอบหรือซ่อมแซมก่อนได้รับการอนุญาตของโพไลเว่น แล้วทำให้เกิดความล้มเหลว/ข้อบกพร่อง ความเสียหาย ในการใช้งานหรือเกิดปัญหาคุณภาพ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง โพไลเว่น ขอสงวนสิทธิ์การรับประกันตามปกติ แต่เรายังให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสูงแก่คุณ เพราะโพไลเว่นเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคุณ กรณีที่เป็นสินค้าแบรนด์อื่นๆ หรือลูกค้ามียานพาหนะอยู่แล้ว สามารถนำมาเข้าศูนย์บริการของโพไลเว่นเพื่อตรวจเช็คสภาพและประเมินการซ่อมได้ โดยอะไหล่ที่ต้องการเปลี่ยนจะใช้มาตรฐานของโพไลเว่นเป็นหลัก หรือลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากโกดังต่างประเทศ Platform online สามารถใส่ที่อยู่เราเพื่อส่งให้เราประกอบโดยใช้มาตรฐานโพไลเว่นได้ เราถือว่าเป็นการแบ่งปัน ช่วยเหลือลูกค้าของเรา ให้ได้คุณภาพที่ดี และส่งต่อสิ่งดีๆให้โลกใบนี้
Polaiven มีศูนย์บริการและศูนย์ทดสอบรถก่อนวางขาย ที่ 166/4 ม.3 ถนนอัจฉริยะพัฒนา ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนบทุรี 11130
และเราเป็นผู้ผลิตและประกอบ ยานพาหนะไฟฟ้าที่มีตราสินค้า แบรนด์ POLAIVEN(โพไลเวน) สามารถ อ่านว่า “โพไลเว่น” ซึ่งรวมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิต และการขาย การขนส่ง การจัดซื้อจัดหาแบบGlobal sourcing และยึดมาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศนั้นๆ เป็นพื้นฐานการใช้อะไหล่ของเรา เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ในด้านความปลอดภัย แฟชั่น และความสะดวกสบาย เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงคุณภาพของยานพาหนะอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ของเรา ได้รับการจำหน่ายในหลายจังหวัด เทศบาล และทางโพไลเวน ได้มีเป้าหมายพัฒนา เพื่อไปสู่มาตรฐานระดับสากล ด้วยวิสัยทัศน์ของเรา คือ "การเปลี่ยนแปลงโลกให้ดี กว่าเดิม ด้วยยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ดีต่อทุกคน" และจัดหายานพาหนะไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งส่วนบุคคลและองค์กร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาการดำเนินธุรกิจของนโยบาย การบริการ โดยให้ "ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" ในการปรับแต่งรถของตนเองได้ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล "เราต้องการมอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ เข้าถึงความคุ้มค่า เติมเต็มคุณค่าของการมีชีวิต และมีความสุขกับไลฟ์สไตล์ที่เป็น" ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ "โพไลเว่น" วัฒนธรรมองค์กรและส่งเสริมการพัฒนาอย่างรวดเร็ว คือ จุดแข็งของเรา
เรียนผู้ใช้ ขอขอบพระคุณที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ POLAIVEN และพนักงานของเราทุกคนขอต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวโพไลเว่น อย่างจริงใจ สำหรับการเลือกของคุณครั้งนี้ คู่มือนี้จะแนะนำโครงสร้างของรถจักรยานไฟฟ้า โพไลเว่น การใช้งาน อุปกรณ์เสริม ข้อควรระวัง และวิธีการบำรุงรักษา โปรดอ่านคู่มืออย่างละเอียด เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเข้าใจและเต็มประสิทธิ ภาพของยานพาหนะไฟฟ้า และซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้มั่นใจว่า ขับขี่อย่างปลอดภัย บนถนนเพื่อปกป้องรถของคุณอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นยานพาหนะที่คุณสะดวกที่สุด หากคุณพบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนโปรดติดต่อศูนย์บริการยานพาหนะไฟฟ้า โพไลเว่นหรือติดต่อเรา เพื่อซื้อชิ้นส่วนมาตรฐาน นอกจากนี้ เมื่อคุณซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา สามารถลงทะเบียนในไลน์OA"เพื่อเป็นข้อมูลรับประกันสินค้า” อย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้เราสามารถติดต่อและให้ บริการคุณได้ทันเวลา ยานพาหนะไฟฟ้า โพไลเว่น จะร่วมเดินทางกับคุณอย่างปลอดภัยและมอบชีวิตที่อิสระ และสะดวกสบายให้กับคุณ! "ทางเลือกที่ถูกต้องของคุณ คือจุดเริ่มต้นของการบริการของเรา!" ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะมอบบริการที่สะดวกสบาย ทันเวลา รวดเร็ว และความพึงพอใจให้กับคุณอย่างเต็มที่! โปรดอ่านคู่มือนี้อย่างละเอี ยดและปฏิบัติตามข้อบังคับและคำแนะนำทั้งหมด
โปรดอย่าใช้จนกว่าคุณจะเข้าใจคุณลักษณะของรถ (โปรดสังเกตเงื่อนไข "อันตราย" "คำเตือน" "ข้อควรระวัง " และ “หมายเหตุ” โปรดอ่านอย่างละเอียด หลังจากอ่านคำแนะนำแล้วกรุณาเก็บคู่มือไว้ในที่ที่หยิบง่าย เพื่อศึกษาอย่างละเอียด
ข้อแนะนำพิเศษเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานยานพาหนะไฟฟ้า โดยสรุป
1. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติ ตามกฎจราจรและคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่
1.1 ห้ามมิให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีขับขี่ยานพาหนะไฟฟ้าบนถนน ตามลำพังโดยเด็ดขาด
(2) ยานพานะไฟฟ้า (จักรยานไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า สกูตเตอร์ไฟฟ้า) จะต้องขับในช่องทางที่ไม่ใช่ รถยนต์ และความเร็วสูงสุดจะต้องไม่เกิน 25 กม. / ชม. กรณีบนถนนที่ไม่มีช่องทางจักรยานไฟฟ้าให้ขับทางด้านซ้ายของถนน
(3) อย่าให้ยืมยานพาหนะไฟฟ้าแก่ผู้ที่ไม่สามารถใช้งานได้ หรือผู้ที่ไม่มีทักษะการขี่ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
(4) ยานพาหนะไฟฟ้าต้องบรรทุกคนหรือสิ่งของตามกฎหมายและข้อบังคับ
(5) สวมหมวกกันน็อคเมื่อขับขี่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
(6) เมื่อขี่ท่ามกลางสายฝนและลูกเห็บ ระยะเบรกจะยาวขึ้น ให้ชะลอความเร็ว พายุฝนและสภาพอากาศเลวร้ายอื่นๆ พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทาง
กฎความปลอดภัยในการใช้งานยานพาหนะไฟฟ้า
(1) ห้ามจอดยานพาหนะไฟฟ้าในบริเวณล็อบบี้ของอาคาร บันไดหนีไฟ ทางเดินเท้า และทางออกฉุกเฉิน
(2) ห้ามชาร์จยานพาหนะไฟฟ้ากลางแจ้ง หรือจอดในห้องที่พักอาศัย จะต้องอยู่ห่างจากสารติดไฟในระหว่างการชาร์จ และเวลาในการชาร์จ (3-8 ชั่วโมงเหมาะสมและแบตเตอรี่ จะเต็มแล้ว) จะต้องไม่ทิ้งรถชาร์ตทั้งคืน เพราะแบตจะบวมเนื่องจากชาร์ตไฟเกินได้
(3) อ่านเงื่อนไขของคู่มือ: วิธีใช้และบำรุงรักษาแบตเตอรี่ ที่ถูกต้อง ห้ามใช้แบตเตอรี่ที่เสีย เสื่อมสภาพ บวม แตก ชาร์ตแล้วร้อน ชาร์ตแล้วมีกลิ่น ควันออกมา ต้องกำจัดด้วยวิธีรีไซเคิล ห้ามทิ้งในที่สาธารณะ สามารถทิ้งที่ศูนย์บริการเรา ซึ่งจะคัดแยกขยะเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล กรณีรถหรืออะไหล่ที่ไม่ใช้งานแล้ว
(4) อ่านคำเตือนของเครื่องชาร์จ เมื่อเปลี่ยนเครื่องชาร์จจะต้องตรงกับรุ่นแบตเตอรี่ หากไม่ตรงจะทำให้รถเสียได้
(5) ข้อควรระวังในการล้างน้ำ สำหรับการทำความสะอาดจักรยานไฟฟ้า คุณสามารถทำความสะอาดด้านนอกของรถทั้งหมดด้วยผ้าเปียกหากคุณต้องการทำความสะอาดอย่ างล้ำลึกและการล้างด้วยน้ำคุณสามารถไปที่ศูนย์บริการ เพื่อรับการบำรุงรักษาแบบมืออาชีพแล้วล้างและตรวจเช็คสภาพรถพร้อมหล่อลื่น โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
(6) เมื่อทำการปรับแฮนด์มือจับหรืออาน ระวังอย่าให้เลยเครื่องหมายแนวความปลอดภัยของตั วยกแฮนด์และท่ออาน (ถ้ามี)
(7) ตรวจสอบก่อนขับขี่ หากมีความผิดปกติใดๆ โปรดซ่อมแซมให้ทันเวลา หรือค้นหาวิธีการซ่อมด้วยตนเอง หรือปรึกษาการซ่อมแซมอย่างมืออาชีพกับเรา
การตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ก่อนใช้งาน
1) ตรวจสอบสถานะไฟ (วงจรจ่ายไฟและวงจรไฟส่องสว่าง;
(2) ตรวจสอบว่าเบรกหน้าและหลังสามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่
(3) ตรวจสอบสถานะการยึดแฮนด์และล้อหน้าและล้อหลัง โดยทดลองเลี้ยว
(4) ตรวจสอบแรงดันลมยาง อยู่ที่30-34PSI
(5) ตรวจสอบตัวสะท้อนแสงว่ามี ความเสียหาย/สกปรกหรือไม่
การเชื่อมต่อแบตเตอรี่
การเชื่อมต่อแบตเตอรี่กรณีที่ผู้ ใช้งานมีเหตุที่ต้องปรับปรุง สามารถดูแผนผังการต่อได้ที่เว็บไซด์ของเรา เพื่อให้ต่อได้ถูกหลักความปลอดภัย
โดยจะมีการติดตั้งแบตเตอรี่ 48v12ah และการติดตั้งแบตเตอรี่ 48v20ah
ซึ่งหลักการมีดังนี้
1. ขั้วสายไฟไม่ควรอยู่ชิดกัน
2. สายไฟไม่ควรตึงเกินไป เมื่อรถสั่น กระแทก ตกหลุม จะทำให้ขาดได้
3. การต่อขั้วบวกและลบ ต้องมีทักษะและความรู้ในการต่อวงจร อนุกรม
4. สายไฟ หัวน็อต หากพบว่าชำรุด มีขี้เกลือ ควรเปลี่ยนเพราะทำให้กินกระแสไฟและกระแสไฟไหลผ่านไม่ดี จะเกิดความร้อน
5. สายไฟควรขัดน็อตให้แน่น และมีฉนวนกันหัวน็อตโดนโครงเหล็ ก
6. กรณีต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือซ่อม ควรใส่ถุงมือและมีสมาธิ ในการทำงาน
7. ไม่ควรให้สายไฟงอ และจัดเก็บสายไฟให้เรียบร้อย ไม่ออกมาจากตัวรถ ไม่อยู่ใต้ท้องรถ
8. การต่อสายไฟจะต่อในลักษณะอนุกรม โดยสายขั้วของไฟที่ตัวรถจะต้องตรงกับแบตเตอรี่ ห้ามสลับสายจะทำให้ช็อตสายไฟละลายได้
9. แบตเตอรี่หากไม่แน่นควรหาวัสดุไม่ลามไฟกันแบตเตอรี่ขยับ
ข้อควรระวังในการขับขี่อย่างปลอดภัยสำหรับผู้ฝึกขี่
1. โปรดควบคุมความเร็วด้วยความเร็วที่ปลอดภัย(15กม./ซ.ม.)
2. ก่อนขับขี่ ให้ทำความคุ้นเคยกับเนื้อหาของคู่มือนี้ก่อน จากนั้น ค้นหาพื้นที่เปิดโล่ง หรือศูนย์บริการยานพาหนะไฟฟ้าโพไลเว่น สำหรับการฝึกอบรมเพื่อฝึกฝนทั กษะและความจำเป็นในการขับขี่ ของรถอย่างครบถ้วน ทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างของตัวรถซึ่งเป็นพื้นฐานของการขับขี่ อย่างปลอดภัย
3. ขับรถตามสัญญาณไฟจราจรและห้ามฝ่าไฟแดง
4. ขับรถในช่องทางที่ไม่ใช่ยานยนต์ ทั้งนี้ปฏิบัติตามป้ายเตือนการจราจร โปรดชิดซ้ายและอย่าขับสวนทาง
5. เปิดไฟหน้าเมื่อขับรถตอนกลางคืนและเช็คไฟท้ายว่าติดหรือไม่
6. อย่าให้ยืมหรือปล่อยให้คนขับที่ ไม่คุ้นเคยและไม่เคยใช้ ยานพาหนะนี้ ห้ามขับรถมือเดียว ถอดด้ามจับใหญ่ หรือ เมาแล้วขับ จะอันตรายต่อผู้อื่นด้วย
7. ควรจอดจักรยานไฟฟ้าให้ห่างจากแหล่งความร้อนและไฟ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อขับขี่ในวันที่ ฝนตก เพราะพื้นเปียก มีแอ่งน้ำ นำมาซึ่งอันตราย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยง) กรณีอยู่บนที่สูง บนเขา ควรระมัดระวังในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงและเลี้ยวกระทันหัน ต้องแตะเบรกล่วงหน้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ!
8. ใช้หมวกกันน็อคอย่างถูกต้อง ในการขับขี่
ให้สวมหมวกนิรภัยไว้บนศีรษะอย่างถูกต้องและคาดเข็มขัดรัดคาง
9. แต่งกายให้ถูกต้อง
ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยไม่รัดรูป ไม่ควรสวมกระโปรงขณะใช้งาน เก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อยไม่ปลิ ว และสวมรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าผ้าใบ
10. เพื่ออำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษา ยกเครื่อง และการบริการ รถแต่ละคันที่ผลิตโดยโพไลเว่น มีหมายเลขเฟรมและหมายเลขมอเตอร์ เพื่อช่วยให้สามารถลงทะเบียนกับกรมขนส่งในอนาคตได้และเพื่อให้ คุณรับการบริการที่ดียิ่งขึ้น โดยหมายเลขโครงยานพาหนะ จะประทับอยู่บนท่อหัวเฟรม หมายเลขมอเตอร์จะประทับอยู่ที่ ฝาครอบปลายด้านนอกของมอเตอร์
11. ไม่ควรบรรทุกของหนักเกินไปที่ หน้าตะกร้า(ถ้ามี) ซึ่งถ้าหนักเกิน แฮนด์จับจะมีความรู้สึกในการควบคุมที่แตกต่างกัน และถ้าน้ำหนักบรรทุกหนักเกินไป ด้ามจับจะสั่นสะเทือนได้ง่ายและเป็นอันตราย น้ำหนักบรรทุกที่ กำหนดของยานพาหนะคือ 1 คน ซึ่งทางเทคนิคกรณีมีเหตุจำเป็นที่ต้องซ้อน2 สามารถบรรทุกได้120-180kg แล้วแต่รุ่น ซึ่งขอให้ใช้ความระมัดระวังที่สุด และไม่ควรใช้ความเร็วสูง ภาชนะตะกร้าบรรจุหน้ารถไม่ ควรเกิน 2 กก.
ข้อควรระวัง: นอกเหนือจากตำแหน่งเก็บของด้านหน้าที่ระบุแล้ว ห้ามโหลดตะกร้า หรือชิ้นส่วนอื่นๆ โดยพลการ เพื่อไม่ให้โครงพลาสติกที่ติดกั บตัวรถเสียหาย ห้ามวางผ้าก็อซ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นเส้น ไว้ใกล้มอเตอร์ ควรมีตะกร้าหรือกล่องสำหรับใส่ โดยเฉพาะ ห้ามวางสิ่งของไว้ใต้เบาะรองนั่ ง (นอกกล่องเก็บของ) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
12. การตรวจสอบ ทำความสะอาด และบำรุงรักษาก่อนขับขี่ โปรดอย่าลืมสร้างนิสัย “ความปลอดภัยต้องมาก่อน” ก่อนออกเดินทาง การตรวจสอบก่อนใช้งานอย่างสม่ำ เสมอ และการทำความสะอาดโดยการเช็ดบ่อยๆ จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดได้
13. การใช้งานในองค์กร โรงงาน ควรกำหนดจุดจอดและจุดที่ สามารถใช้ได้ให้ชัดเจน รวมถึงจุดชาร์ตที่ปลอดภัย มีผู้ดูแลอย่างชัดเจน และมีป้ายติดในตัวรถกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต้องติดต่อใคร และจัดให้มีกฎเกณฑ์การใช้ งานเฉพาะเพิ่มเติม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ อาจเกิดจากความไม่รู้ และควรอบรมก่อนใช้งาน ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องใช้งาน และพื้นที่ใดมีความเสี่ยง หรือห้ามจอดไว้ใกล้จุดใด
14. หากต้องล้างรถ ห้ามสาดน้ำใส่ดรั มเบรก มอเตอร์ และเพลาหน้าและหลังโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริการและอายุ การใช้งาน และห้ามใช้ไอน้ำหรือท่อน้ำแรงดันสูงล้าง
15. การปรับแฮนด์มือจับและอานม้า เมื่อปรับความสูงของแฮนด์และอาน อย่าให้เกินเครื่องหมายความปลอดภัยและอาน สำหรับท่อแนวนอน ให้ใส่ใจกับการยึดหลังจากปรับท่อไรเซอร์ และอาน แล้วแรงบิดในการดันคือ 18N. M. คำนึงถึงความปลอดภัยเมื่อติดตั้ งเสร็จ
วิธีการชาร์ต
ระวัง! หากฝนตก ควรเช็คจุดชาร์ตที่ตัวรถว่ามีน้ำขังหรือไม่ ถ้าขังให้เช็ดออกก่อน อย่าเช็ดขณะมือเปียก จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรรุนแรงและเกิดอุบัติเหตุได้
การตรวจสอบรถและการใช้งานสวิทซ์ฟังก์ชัน ปุ่มกด ก่อนขี่
1. ไฟแสดงสถานะเพาเวอร์: เมื่อเปิดเครื่องไฟจะสว่างขึ้นเพื่อระบุว่าแหล่งจ่ายไฟเปิดอยู่
2. ไฟเลี้ยว: เปิดสวิตช์ดูไม่ว่าจะเลี้ยวซ้ ายหรือขวาไฟนี้จะกะพริบเป็ นประจำ แสดงว่าสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายหรือขวาที่ปลายด้านหน้าและด้านหลังรถเปิดอยู่
3. ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ โวลต์มิเตอร์: เปิดสวิตช์ไฟ ถ้าไฟเป็นสีเขียว ความจุของแบตเตอรี่เต็มจำนวนขีดที่มี ไฟจะอยู่ที่ประมาณ 80-100% ของความจุที่กำหนด ขณะบิดคันเร่ง ถ้าไฟขึ้นสีแดงหรือมีสัญลักษณ์ให้เติมน้ำมัน ความจุของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ ประมาณ 40% ของความจุที่กำหนด ดังนั้น เมื่อคุณพบว่าสถานะอยู่ใกล้กับสีเหลือง/แดง โปรดชาร์จให้ทันเวลา
4. ไฟแสดงสถานะแรงดันตก(ขึ้นรูปสายฟ้า) : เมื่อไฟนี้เปิดอยู่หมายความว่าต้องชาร์จแบตเตอรี่ทันที
5. ถ้าเปิดเครื่องด้วยกุญแจ ก็ต้องปิดด้วยกุญแจ ถ้าเปิดด้วยรีโมท(กดปุ่มสายฟ้า2ครั้ง) ต้องปิดด้วยรีโมท ไม่งั้นจะพบว่าถอดกุญแจแล้วทำไมเครื่องยังติดอยู่
6. กรณีจอดรถให้ถอดกุญแจออกและควรเปิดระบบสัญญาณกั นขโมย(ถ้ามี) หรือล็อครถด้วยโซ่ กันรถหาย
กดสวิตช์ไฟหน้า
ไฟหน้าและไฟท้ายจะสว่างขึ้นพร้อมกัน กดอีกครั้งเพื่อปิดไฟหน้ าและไฟท้ายด้านหลัง
ไฟเบรค
จักรยานไฟฟ้าโดยทั่วไปจะไม่มี ไฟเบรค แต่จะมีไฟท้ายที่เปิดพร้อมกั บไฟหน้า เว้นแต่รุ่นนั้นๆพัฒนาเพิ่มฟังก์ชั่นนี้
เบรคไฟฟ้า
จักรยานไฟฟ้าจะมีเบรคไฟฟ้า หากกำเบรคอยู่มอเตอร์จะไม่ทำงาน หรือสายเบรค/มือเบรคหย่อน เสื่อมสภาพ น้ำมันเบรคถึงรอบเปลี่ยน รถก็จะไม่สามารถวิ่งได้เช่นกัน ต้องทำการแก้ไขก่อน
ที่จับมือบิดควบคุมความเร็ว
การหมุนตามเข็มนาฬิกาในมุมมองคนขับจะเร่งความเร็ว การหมุนทวนเข็มนาฬิกาจะช้าลง ถ้าปล่อยคันเร่ง มอเตอร์จะหยุดหมุน
สวิตช์แตร
เมื่อเปิดสวิตช์,บิดกุญแจรถ ให้กดปุ่มแตรเพื่อให้เสียง ห้ามใช้แตร เมื่อไม่จำเป็น หรืออยู่บนท้องถนนเพื่อป้องกันมลพิษทางเสียง
สวิตช์เลี้ยว
ใช้สวิตช์นี้เมื่อเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน โดยต้องเปิดก่อนที่จะเลี้ยว50- 100เมตรล่วงหน้า เลี้ยวซ้าย เปิดสวิทซ์ไปทางซ้าย เมื่อเลี้ยวขวาให้เลื่อนไปทางขวา เมื่อเลี้ยวเสร็จ วางปุ่มไว้ตรงกลางไฟสัญญาณจะดับลง หมายเหตุ: ต้องปิดไฟเลี้ยวทันทีหลังใช้ งานเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดกับผู้อื่น
ตัวสะท้อนแสง
ในบางรุ่น จะมีตัวสะท้อนแสงด้านข้างและตั วสะท้อนแสงด้านหลัง สามารถใช้ผ้าทำความสะอาดได้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ในกรณีที่มีความผิดปกติ ชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภั ยในการขับขี่
การขับรถที่ถูกต้อง
วิธีการเริ่มต้น: ก่อนสตาร์ท: ยืนทางด้านซ้ายของรถ และขึ้นนั่งค่อมเบาะเตะขาพักรถ/เอาขาตั้งคู่ลง(ถ้ามี) และตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่
1. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่งเปิด ตรวจสอบว่าไฟต่างๆ เปิดอยู่หรือไม่ แล้ว เปิดสวิตช์ดูว่าสวิตช์ ทำงานหรือไม่ มีเสียงแตรหรือไม่ และสวิตช์มือเบรกทำงานปกติหรือไม่
2. สตาร์ทมอเตอร์ เมื่อคุณนั่งอยู่ในรถอย่างมั่นคงแล้ว ให้ค่อยๆ หมุนมือบิดควบคุมความเร็วเข้าด้ านใน จากนั้นรถจะเริ่มขับแล้วค่อย ๆ เร่งความเร็ว
3.อย่าเลี้ยวรถทันทีหรือเลี้ยวหักศอก หรือเลี้ยวแฮนด์จับแล้ วเบรคกระทันหัน จะทำให้รถพลิกคว่ำได้
หมายเหตุ: การเบรกเฉพาะล้อหน้าหรือล้อหลัง รถอาจลื่นไถลได้ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ข้อควรระวังในการขับขี่
1. รักษาท่าทางที่เป็นธรรมชาติก่อนจึงจะสามารถขับขี่ได้อย่างอิ สระ
2. การวางตำแหน่งสิ่งของที่บรรทุก ควรวางบริเวณกลางรถ ไม่ควรวางให้หน้ารถหนักเกิน จะทำให้รถสั่น
3. การขี่บนถนนที่เสียหายหรือถนนลูกรัง ให้ขับช้าๆ และสังเกตหลุม ทรายลื่น สิ่งของบนถนน หินก้อนใหญ่ แอ่งน้ำ อย่างระมัดระวัง
4. ในวันที่ฝนตกและมีลูกเห็บ ถนนจะเปียกและลื่นไถลได้ง่าย ดังนั้นคุณควรมีสมาธิ ให้พร้อมทุกเมื่อและเบรกล่วงหน้ า ทำความสะอาดรถ หรือขับลุยน้ำ ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสภาพการทำงานของเบรก หลังจากล้างหรือขับในน้ำแล้ว ผลการเบรกอาจลดลง ในเวลานี้ ขับช้าๆ คำนึงถึงความปลอดภัยและขับขี่ อย่างนุ่มนวล และกำเบรคเบรก เรื่อยๆ จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ
5.ในช่วงที่มีฝนตกหนักและมีพายุ ฝนทำให้น้ำสะสมอยู่บนถนน อย่าให้ระดับน้ำเกินขอบด้ านนอกของมอเตอร์ล้อในตำแหน่งต่ำ สุด โปรดอย่าขี่ในน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการความเสียหายของมอเตอร์ และการเบรกหลังจากขี่เสร็จควรตรวจเช็คว่าไม่มีน้ำขังในตั วรถ
• วิธีจอดรถ
1. สัญญาณให้เข้าใกล้สถานที่จอดรถ เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้า ให้ความสนใจกับยานพาหนะด้านหลังและด้านข้าง และหยุดรถช้าๆ
2. ควบคุมความเร็ว และแตะเบรกหน้าและหลังล่วงหน้า
3. เมื่อรถหยุดสนิท ปิดสวิตช์ไฟเลี้ยวให้ดับลงและ บิดกุญแจให้ที่ตำแหน่งปิด
ระวัง! อย่าลงรถก่อนเพราะมืออาจไปเผลอบิดคันเร่ง!
4.เมื่อจอดรถ ให้ยืนบนพื้นราบด้านซ้าย เหยียบขาตั้งคู่(ถ้ามี) แล้วยกท้ายรถขึ้นด้วยมือขวา หมายเหตุ: อย่าจอดบนทางลาดหรือที่ทราย ดินนุ่มๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รถล้ม แปะกับพื้น เมื่อคุณออกจากรถ อย่าลืมล็อคล็อคกันขโมยและนำกุญแจออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้รถถูกขโมย
การชาร์จแบตเตอรี่และการบำรุงรักษา
รถมาตรฐานจะใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบไม่ต้องบำรุงรักษา และอุณหภูมิการใช้งานคือ - 15 °C ถึงภายใน 45 °C การใช้งานตามมาตรฐานผู้ผลิต ควรอยู่ที่ 20°C ± 10°C
ซึ่งในประเทศไทยพื้นที่ส่วนใหญ่ อยู่ในเขตร้อน อุณหภูมิมากกว่า32องศา ซึ่งส่งผลโดยตรงกับแบตเตอรี่ และการจอดรถกลางแดดบ่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง
กรณีอากาศหนาว พื้นที่หนาว ความจุที่มีจะลดประสิทธิภาพลง จะส่งผลต่ออายุการใช้งาน ดังนั้น ในฤดูหนาวหรือในพื้นที่เย็น เป็นเรื่องปกติ ที่จะระยะการใช้งานอาจลดลง เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 20 °C แบตจะฟื้นตัวตามธรรมชาติ แบตเตอรี่ คือ เป็นส่วนสำคัญในการแสดงสมรรถนะที่ดีของรถ โปรดใส่ ใจในการดูแลให้เหมาะสม กรุณาอย่าใช้พลังงานไฟฟ้าจนหมดทุกครั้งที่คุณขับขี่ เมื่อไฟแสดงแรงดันไฟฟ้าตกกะพริบ คุณต้องชาร์จแบตเตอรี่ทันที วิธีที่ดีที่สุดคือ "สร้างนิสัยการชาร์จหลังจากขี่ทุกวัน" และมีเครื่องตั้งเวลา(อุปกรณ์ เสริม) เพื่อชาร์ตให้พอดีกับการใช้งาน ไม่มากเกินไป ซึ่งสำคัญมากต่ออายุการใช้ งานแบตเตอรี่
อันตราย : ห้ามมิให้ผู้ใช้งานและตั วแทนจำหน่ายแก้ไขการกำหนดค่ าแบตเตอรี่โดยไม่ได้รับอนุญาต แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบเจลไม่ สามารถใส่น้ำกลั่นได้ ถ้าใส่เวลาชาร์ตจะเกิดแรงดันและทำให้น้ำในแบตไหลออกมาอาจถูกตาได้
แบตเตอรี่ของรถยนต์ใหม่ที่ซื้อ อาจเหลือน้อยเนื่องจากการจัดส่ง การขนส่ง ฯลฯ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้ว (เวลาในการชาร์จที่แนะนำเป็นครั้ งแรกคือ 8 ชั่วโมง) หากคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรชาร์จแบตเตอรี่เดือนละครั้งที่8ชม. มิฉะนั้น หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลงอย่างมาก หากทิ้งไว้เกิน6เดือนจะยากต่อการฟื้นฟูแบตเตอรี่ซึ่งจะไม่ อยู่ในการรับประกัน หรือให้ช่างเทคนิคถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถเพื่อลดการคลายประจุแบตเตอรี่
***โปรดอย่าทิ้งแบตเตอรี่ในที่ สาธารณะ ลูกค้าสามารถทิ้งที่ศูนย์บริการ เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะถูกรีไซเคิลโดยองค์กรหรือผู้จัดจำหน่ายและเครือข่ายที่ กำหนดโดยรัฐบาล
การตรวจสอบปริมาตรของเหลวในแบตเตอรี่
รถคันนี้ใช้แบตเตอรี่แบบปิดผนึกโดยไม่ต้องบำรุงรักษา ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหรือเติมของเหลวในแบตเตอรี่ หากคุณรู้สึกผิดปกติ โปรดไปที่ศูนย์บริการโพไลเว่น เพื่อตรวจสอบ ห้ามถอดฝาแบตเตอรี่ด้วยตนเอง
หมายเหตุ: หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน พลังงานจะค่อยๆ ลดลงเนื่องจากการคายประจุ ตามธรรมชาติ ดังนั้น ควรถอดแบตเตอรี่ออกเก็บไว้ หรือถอดขั่วลบออกจากตัวจักรยาน และเก็บไว้ในที่ร่ม จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้งได้
การใช้และการบำรุงรักษาเครื่องชาร์จ
1) ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าขาเข้าที่ กำหนด (AC220V) ของเครื่องชาร์จอย่างละเอียด และดูว่าแรงดันไฟฟ้ าของgridสอดคล้องกันหรือไม่
2 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ โดยตรงบนยานพาหนะหรือถอดออกด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ ภายในอาคารและสถานที่ ที่เหมาะสมอื่นๆ ในพื้นที่ร่ม
3) กรุณาเชื่อมต่อ เครื่องชาร์จกับตัวรถหรือแบตเตอรี่ก่อนเมื่อเชื่อมต่อแน่น ถูกทางแล้ว จึงเสียบปลั๊กเครื่องชาร์จเข้ากับไฟ AC ไฟแสดงสถานะพลังงานสีแดงจะติดสว่ าง แปลว่าชาร์จอยู่
4) ในเวลานี้ไฟแสดงการชาร์จสีแดงของเครื่องชาร์จติดขึ้นแสดงว่าแบตเตอรี่กำลังทำงานเปิดเครื่องอยู่ เมื่อไฟเปลี่ยนจาก สีแดงเป็นสีเขียว แสดงว่าชาร์จเต็มแล้ว 80% ขณะนี้แบตเตอรี่พร้อมใช้งาน แนะนำให้ถอดและเสียบใหม่เพื่อเช็คการชาร์จ ถ้าไม่เต็มลองชาร์จอีกเป็นเวลา (1-2) ชั่วโมง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ ชาร์จเต็มแล้ว
5 โดยทั่วไปเวลาในการชาร์จจะต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมง มิฉะนั้นแบตเตอรี่จะได้รั บผลกระทบหลังจากการชาร์จเกิน อายุการใช้งานจะลดลง (แบตบวม)
ข้อควรระวัง
เครื่องชาร์ตบางรุ่น อาจไม่ตัดการทำงาน เนื่องจากกระแสไฟขาเข้ามาน้อยกว่า220v อาจส่งผลให้เครื่องชาร์ตไม่ตัดการทำงาน ดังนั้นควรแน่ใจว่าการชาร์ตไม่ ควรเกิน8ชั่วโมง(ไม่ควรชาร์ตทิ้งไว้ทั้งคืน)
6 ห้ามวางทับเครื่องชาร์จและสายไฟโดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงการลัดวงจร ห้ามชาร์ตขณะฝนตก หรือมือเปียก หรือวางเครื่องชาร์ตไว้ที่นั่ง ไว้ห่างไกลมือเด็ก ห้ามบิดขณะชาร์ต จะทำให้เครื่องชาร์ตเสียได้
เครื่องชาร์จมีวงจรไฟฟ้าแรงสูง โปรดอย่าถอดแยกชิ้นส่วนโดยไม่ ได้รับอนุญาต เมื่อใช้และจัดเก็บ ให้ใส่ใจกับความแห้ง ต้อง ไม่มีฝนและน้ำค้าง(ถ้าตอนเช้ าพบน้ำค้างเกาะที่รถ แสดงว่าไม่ควรชาร์ตในจุดนี้) และ ระวังอย่าให้ของเหลวและโลหะเจาะเข้าไปในเครื่องชาร์จ และระวังการตกและการกระแทก หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บ เมื่อชาร์จอย่าเสียบและถอดปลั๊ กด้วยมือเปียก อย่าปิด/บังพัดลมเครื่องชาร์ตเมื่อชาร์จ เครื่องชาร์จนี้สำหรับใช้ ภายในอาคาร โปรดเก็บในที่แห้งและระบายอากาศได้ดี
ถ้าได้กลิ่นแปลกๆ ที่เครื่องชาร์ต หรือแบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูง ระหว่างการชาร์จ และ หากไฟแสดงสถานะของเครื่องชาร์จไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง โปรดหยุดการชาร์จทันทีและส่ งไปที่ตัวแทนจำหน่าย หรือเข้าศูนย์บริการ เพื่อรับการบำรุงรักษา เมื่อชาร์จ ต้องแน่ใจว่าได้ปิดสวิตช์ล็อคเมื่อชาร์จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการชาร์จ หรือเผลอไปจับมือบิดแล้วเคลื่อนที่ได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ห้ามใช้เครื่องชาร์จยี่ห้ออื่นหรือเครื่องชาร์จของรถโพไลเว่นคันอื่น และไม่อนุญาตให้ใช้กับแบตเตอรี่ชนิดอื่น มิฉะนั้น ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น การวางที่ชาร์จไว้ท้ายรถพร้อมกั บตัวรถ อาจส่งผลให้เกิดการชนไปมา สั่นสะเทือน เปียก เป็นต้น ทำให้ตัวชาร์จเสียหายได้ หากระบบจ่ายไฟเสียหาย หรือระบบชาร์จเสีย ให้ไปที่ร้านซ่อมบำรุงที่ผู้ผลิตกำหนด ทำการเปลี่ยนและซ่อมแซม อย่าฝืนใช้
การใช้และการบำรุงรักษามอเตอร์ และตัวควบคุม
1)ตรวจสอบเป็นประจำว่าน็อตตัวเมีย ฝาครอบที่ปลายทั้งสองด้านของมอเตอร์หลวมหรือไม่
2)ตรวจสอบฉนวนระหว่างสายไฟมอเตอร์และรถเป็นประจำ ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าสายไฟของตัวควบคุมหลวมหรือไม่
3)ตรวจสอบเป็นประจำว่าฟิวส์ หลวมหรือไม่ . หมายเหตุ: มอเตอร์จะต้องไม่ขับในน้ำลึก นับจากพื้นผิวถนน ห้ามเกินตำแหน่งของเพลากลางของล้อหลัง ในระหว่างการใช้งาน หรือถ้าให้ปลอดภัยไม่ควรเกินนอกของกระทะล้อ(เนื่องจากถนนอาจมีหลุมซึ่งน้ำขังในหลุมจะเกินครึ่งล้อ
4)หากพบว่าน๊อตล็อคล้อกับโครงรถหลวม ให้ขันให้ทันเวลา หรือสอบถามช่างบริการมืออาชีพ ตรวจสอบและจัดการโดยผู้ปฏิบัติ งาน เพื่อยืดอายุการใช้ งานของรถและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
กรณีที่ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยศูนย์บริการก่อนใช้งาน
การตรวจสอบและบำรุงรักษารถใหม่ โดยมาตรฐานเมื่อขับครบ 300 กม. แนะนำให้ตรวจสอบด้วยตนเอง หรือศูนย์บริการ
5.หากพบความผิดปกติใดๆ จากการตรวจสอบก่อนใช้งานหรือตรวจสอบประจำวัน
สามารถปรึกษาศูนย์บริการ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการใช้งานได้