คู่มือการใช้งานจักรยานไฟฟ้า สกูตเตอร์ไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า Update 1/3/2024 (ต่อ2/2)

คู่มือการใช้งานจักรยานไฟฟ้า สกูตเตอร์ไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า Update 1/3/2024 (ต่อ 2/2)

การตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆที่ใช้งาน
1. ตรวจสอบว่าโช็คตะเกียบด้านหน้างอหรือเสียหายหรือไม่

ตรวจสอบว่าตะเกียบหน้าชำรุดหรือไม่ ให้กดแฮนด์ขึ้นลงเพื่อดูว่ามีเสียงดังผิดปกติที่เกิดจากการงอของตะเกียบหน้าหรือไม่ หรือถ้ากดไม่ลง(อาการโช็คตาย) หากมีความผิดปกติที่โช้คหน้ากรุณาไปพบตัวแทนจำหน่ายเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซม
2. การตรวจสอบเบรก ตรวจสอบว่าระยะห่างฟรีของเบรกอยู่ภายในช่วงที่กำหนดหรือไม่ (10-15 มม.) หากการวัดแสดงว่าไม่ถูกต้องควรปรับเปลี่ยน ผ้าเบรกที่สึกหรออย่างรุนแรง (มากกว่า 2/3) จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่อย่างทันท่วงที หมายเหตุ: หลังจากปรับเบรกแล้ว ต้องแน่ใจว่าได้ขันสกรูยึดสายเบรกให้แน่นเพื่อป้องกันอันตรายขณะขับขี่ ขณะเดียวกัน ให้ดับสวิทซ์ไฟก่อนแล้วจึงเบรก
3. ผลการเบรก การขับรถด้วยความเร็วต่ำบนถนนเรียบแห้ง ให้ใช้เบรกหน้าและหลังตามลำดับเพื่อตรวจสอบผลการเบรกตามลำดับ
สังเกต: •หากยังคงไม่เกิดผลเมื่อจับคันเบรกไว้แน่น ให้ปรับระยะห่างระหว่างผ้าเบรกกับขอบล้อ •ควรเพิ่มระยะเบรกเมื่อขับขี่ท่ามกลางสายฝน
4. การตรวจสอบยาง: ใช้เกจวัดลมยางเพื่อตรวจสอบในขณะที่ยางเย็น (สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อวัดลมยางขณะขับขี่ได้) โดยมาตรฐานยางTubelessของยานพาหนะไฟฟ้ากลุ่มนี้จะอยู่ที่30-34PSIเนื่องจากไม่ต้องใช้ยางใน ซึ่งสามารถดูว่าต้องเติมไม่เกินเท่าไหร่ที่ข้างล้อได้  หากยางหลุดขอบต้องใช้ปั้มลมขนาดใหญ่หรือช่างผู้ชำนาญการ  ยางถึงจะขึ้นขอบได้  ปั้มลมหรือที่สูบลมทั่วไปไม่สามารถทำให้ขึ้นขอบได้
หมายเหตุ: แรงดันลมยางที่ผิดปกติ รอยแตกจากการใช้งาน บดยางขณะยางแบน ความเสียหายของกระทะล้อ และการสึกหรอที่ผิดปกติ ยางรั่ว เป็นสาเหตุบางประการที่ทำให้การบังคับเลี้ยวไม่ดีและยางแตก รถของคุณสัมผัสกับพื้นผิวขรุขระบ่อยครั้ง เช่นหิน แก้ว และตะปูบนพื้นจะทำให้รถของคุณได้รับความเสียหาย ดังนั้น คุณต้องระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะรถสามล้อไฟฟ้าซึ่งล้อข้างหลัง ด้านซ้าย มีโอกาสขี่อยู่บนร่องระบายน้ำข้างถนนซึ่งมีเศษมากมาย นอกจากนี้ ควรตรวจสอบพื้นผิวสัมผัสของยางและด้านข้างยาง  ไม่มีรอยแตกร้าว ไม่ว่าจะมีของมีคม เช่น หินตะปู และกระจก ทะลุ และมีการสึกหรอผิดปกติจากการขับขี่เป็นเวลานานหรือไม่

หมายเหตุ: ความลึกของร่องยาง
ตรวจสอบการสึกหรอของยาง ตรวจสอบความลึกของร่อง และการใช้ยาง เมื่อถึงเครื่องหมายการสึกหรอของดอกยาง ให้เปลี่ยนยาง เมื่อยางผิดปกติกรุณาไปที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อตรวจสอบหรือเปลี่ยนยางใหม่ •

5. การปรับตั้งโซ่ ขั้นแรกให้คลายน็อตเพลาล้อหลังแล้วหมุนน็อตปรับไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อแก้ไขการหย่อนของโซ่ ขณะปรับโซ่ คุณต้องรักษาสเตอร์หน้าและหลังให้อยู่ในแนวเดียวกันและเป็นเส้นตรง หลังจากปรับแล้ว ให้ขันน็อตเพลาล้อหลังใหม่ ล็อคน็อตปรับแล้วดำเนินการตรวจสอบขั้นสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่าระยะห่างหลวมระหว่างศูนย์กลาง ของเฟืองสองตัวคือ 10~15 มม. แนะนำเหล่านี้เป็นค่าสูงสุด ที่จริงแล้ว ควรตรวจสอบและปรับโซ่ก่อนขับแต่ละครั้ง การหย่อนของโซ่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้โซ่หลุด หรือเกิดความเสียหายร้ายแรงได้
ระวังเรื่องข้อต่อโซ่ ควรให้อยู่ด้านหลังเพื่อกันหลุด

ตรวจสอบสถานะการหล่อลื่นของทุกส่วนของตัวรถลูกค้าสามารถใช้สเปรย์หล่อลื่นอเนกประสงค์ตรวจสอบว่าแฮนด์จับหมุนได้อย่างลื่นไหลหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ขันให้แน่นในแต่ละแถบฉีดน้ำมันบริเวณแหวนรองคอ ที่เพลากลางที่หมุนของเส้น ไม่ควรฉีดไปที่สวิทซ์ระบบเบรคและแตร

วิธีการปรับเบรค
การปรับระบบเบรกหน้า(ดรัมเบรค)
1ตรวจสอบมือเบรกขวา เมื่อกำเบรคครึ่งหนึ่ง จะถึงระยะเบรกเต็ม
2ปรับน็อตเบรคใช้ชิดกับจานเบรค และขันน็อตดุมเบรค
3ทดสอบเบรค ซึ่งจะขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ว่าต้องการเบรคเร็วหรือช้า เบรคแข็งหรือหลวมๆ
4กรณีเบรคมีเสียงขณะเบรค แก้ไขโดยปรับเบรคให้ห่างออกจากจานเบรค ถ้าไม่หายให้ทำการนำเบรคออกมาล้าง ด้วยน้ำยาล้างเบรค หรือน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง ถ้าไม่หายแต่ยังสามารถเบรคอยู่ แสดงว่าเบรคสกปรก ควรเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขซ่อม/เปลี่ยน
• การปรับระบบเบรกหลัง(ดรัมเบรค)
ปรับแบบเดียวกับเบรคหน้า

(ดิกส์เบรคน้ำมัน)
ถ้ากำมือเบรคแล้วเริ่มแข็ง ให้เข้าศูนย์เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเบรค หรือไล่น้ำมันเบรคใหม่

(เบรคผ้าใบ)
ดึงสายเบรคให้ตึง กดสปริงค์ดึงผ้าเบรคให้ชิดกับจานเบรค จากนั้นให้ขันน็อตให้แน่น และทดสอบกำเบรคแรงๆ เพื่อมั่นใจได้ว่าขันน็อตแน่นดีแล้ว

●การเปลี่ยนฟิวส์
หมุนสวิตช์ไฟไปที่ OFF และตรวจสอบว่าฟิวส์ครบหรือไม่ หากฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทันที

1. ดึงกล่องฟิวส์ออก
สังเกต: 1. หากส่วนที่สอดของฟิวส์หลวมอาจทำให้ฟิวส์ร้อนขึ้นและเกิดอุบัติเหตุได้
2. เมื่อเปลี่ยนฟิวส์ที่ขาด ต้องแน่ใจว่าใช้ฟิวส์ตามรุ่นที่ระบุและข้อกำหนด (30A)
3. หากใช้ฟิวส์เกินความจุที่กำหนด จะทำให้ชุดสายไฟหลักร้อนขึ้นหรือไหม้ได้
4. หากฟิวส์ขาดทันทีหลังเปลี่ยน ควรพิจารณาถึงสาเหตุของอุบัติเหตุฟิวส์ และควรระบุสาเหตุและแก้ไขก่อนเปลี่ยนฟิวส์ใหม่
5.เมื่อทำความสะอาดยานพาหนะ ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำไหลไปในฟิวส์

ข้อมูลทางเทคนิค มาตรฐาน
(คู่มือนี้เป็นคู่มือพื้นฐาน ซึ่งรวมยานพาหนะไฟฟ้าของโพไลเว่น อาจมีสเปคที่ไม่ตรงกับรุ่นในปัจจุบันบ้าง โปรดเข้าใจ)
แบตเตอรี่ที่ใช้ 48v 12Ah
ระยะมิติรถ 1540x640x1000 mm
ประเภทแบตเตอรี่ Lead Acid Gel
ความเร็วมาตรฐาน 25km/hr.
การรับน้ำหนักสูงสุด 180kg
มอเตอร์ : มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน 350 วัตต์
ค่าป้องกันแรงดันตก 41-43v
ค่าป้องกันกระแสเกิน16-18A
ระบบไฟที่ใช้ชาร์ต AC220v 50Hz
ระยะเวลาการชาร์ต 3-8ชม.
ระยะทางต่อการชาร์ต 40 km.(แนะนำให้ชาร์ตทุกวัน)

ความรับผิดชอบต่อสังคม
ทางโพไลเว่น ตะหนักถึงการรับผิดชอบต่อสังคม โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยใช้หลักการCommon part และ global sourcing ซึ่งจะใช้อะไหล่จากทั่วโลกที่มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งผลิตอยู่แล้ว และเป็นเกรดคุณภาพสูง สำหรับโรงประกอบยานพาหนะไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้อายุโดยรวมของสินค้าเรามีมากกว่ามาตรฐานทั่วไป รวมถึงมีบริการหลังการขายเพื่อให้ยานพาหนะเหล่านี้สามารถซ่อมได้และสามารถแบ่งปัน ส่งต่อความรักไปยังทุกคนได้ และหากผู้ใช้งานไม่ได้ใช้สินค้ายานพาหนะไฟฟ้า ทางเรายินดีรับเพื่อรีไซเคิลให้ถูกวิธีต่อไปเพื่อลดมลพิษที่อาจเกิดจากการทิ้งที่ผิดวิธี ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจเราที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีกว่าเดิม

คำเตือน
0.ปฏิบัติตามกฎจราจร และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในที่สาธารณะ และหมั่นดูแลให้จักรยาน มีสภาพพร้อมใช้งาน
1.สวมหมวกนิรภัยและอุปกรณ์ป้องกันก่อนใช้งาน และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่
2.ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ยาง เบรค ก่อนใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในที่มืด

ข้อควรระวังในการใช้งานเมื่อมีเด็กเล็กนั่งด้วย
1 ห้ามจอดรถกลางบ้าน  ควรจอดให้ชิดมุมใดมุมหนึ่งกันเด็กปีนแล้วรถล้มใส่ตัวเด็ก และไม่จอดที่ที่เป็นเนิน
2 กรณีใช้ที่นั่งเด็กด้านหน้า เมื่อถึงที่หมาย ไม่ควรทิ้งเด็กไว้กับจักรยานตามลำพัง และดับมอเตอร์ก่อนเด็กขึ้นรถและลงรถ เพื่อลดการเผลอเร่งเครื่อง

ข้อควรระวังการใช้งาน เมื่อออกถนน
1. จักรยานไฟฟ้า แม้ว่าจะมีความเร็วระดับหนึ่ง แต่บุคคลทั่วไปยังมองว่าเป็นจักรยาน   ซึ่งอาจขับ/ขี่  ตัดหน้าได้ เนื่องจากผู้ร่วมทางคิดว่าความเร็วไม่สูง
2. จักรยานไฟฟ้า จะมีความสามารถในการไต่ขึ้นบนที่สูง10-18องศา การขึ้นเนินสูงมากกว่านี้ต้องใช้ทักษะความชำนาญในการขับขี่ หรือปรับแต่งรถ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก  และความเร็วขณะขึ้นเนินด้วย
3. ขณะออกจากหมู่บ้านหรือมีความจำเป็นต้องใช้ทางร่วมกับรถ ให้ชิดซ้ายริมขอบถนนเสมอ

เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่จากผู้ผลิต
1.บริษัทฯ รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ เฉพาะแบตเตอรี่ที่เสียหายเนื่องจากข้อบกพร่องในการผลิต โดยจะรับประกัน 6-12 เดือนสำหรับแบตเตอรี่ทุกรุ่น นับจากวันที่ลูกค้าซื้อแบตเตอรี่ (ลูกค้าหมายถึงผู้ใช้แบตเตอรี่) และเฉพาะแบตเตอรี่ จักรยานไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าและรถอื่นๆตามที่บริษัทกำหนด โดยใช้งานตามปกติ ไม่รวมถึงการใช้งานกับรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถโดยสารหรือรถรับจ้าง รถเช่า การขนส่งที่เกินกำลัง
2. ขอยกเว้นความรับผิดชอบในการรับประกัน
2.1 พ้นระยะเวลาการรับประกันที่กำหนด
2.2 การรับประกันนี้ จะไม่รวมถึงความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุ รถชน ตกน้ำ ความประมาทเลินเล่อของผู้ใช้ เช่น เกิดการสปาร์ค ขั้วละลาย หรือเกิดการระเบิดผนังเปลือกหม้อแตก เนื่องจากลองไฟโดยใช้ สายไฟที่ขั้ว เขี่ยให้เกิดการสปาร์ค หรือถอดขั้วไม่ระวังทำให้ขั้วบวกแตะกับตัวถังรถ ฯลฯ
2.3 การรับประกันนี้ จะไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติต่างๆ เช่นน้ำท่วม
2.4 การรับประกันนี้ จะไม่รวมถึงการซ่อมหรือทำให้แบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
2.5 การรับประกันนี้ จะไม่รวมถึงความเสียหายอันเกิดจากการใช้งานผิดประเภทหรือการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
-ประจุไฟเกิน หรือโอเวอร์ชาร์จ (OVER CHARGE) -จ่ายไฟเกินหรือปล่อยให้ไฟหมดเป็นเวลานาน (OVER DISCHARGE)
-ปล่อยให้น้ำ/เจลแห่งต่ำกว่าแผ่นธาตุ (แผ่นเป็นซัลเฟต)
-รถจอดไว้นาน โดยไม่ได้ใช้งาน และไม่ได้ปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาแบตเตอรี่
-แบตเตอรี่เปลือก ฝา แตก ขั้วชำรุด ซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้ใช้
-การเติมสารอื่นในการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ เช่น การเติมน้ำกรดมีคราบน้ำมันในแบตเตอรี่(ซึ่งแบบเจลไม่สามารถเติมได้)
-ขาดการทำความสะอาดที่เหมาะสม จุกระบายอากาศอุดตัน อันทำให้เกิดการระเบิด แตกเสียหาย
-สาเหตุอันเกิดจากความผิดพลาดจากอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ ทำให้เกิดความเสียหาย การนำแบตเตอรี่ไปใช้กับรถยนต์, รถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ หรือทำให้มีการ จ่ายไฟมากขึ้น เช่น การติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่ม มอเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น
-การใช้งานผิดประเภท นอกเหนือจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ และใช้เดินทางทั่วไป เช่น การเชื่อมเหล็ก ใช้งานsolar cell 
-จักรยานไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า สกูตเตอร์ไฟฟ้า รถยนต์, รถจักรยานยนต์ ที่มีการเปลี่ยนเจ้าของ หรือการขายรถยนต์, รถจักรยานยนต์, หรือขายแบตเตอรี่

3. ในกรณีที่แบตเตอรี่ไม่สามารถใช้งานได้ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัทจะชดเชยสินค้าให้เพียง 1 ครั้ง หรือ 1 ลูกเท่านั้น - โดยการรับประกันจะนับต่อเนื่องจากลูกแรก

4.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับประกัน หากไม่มีการแสดงวันที่ขายอย่างชัดเจน  ซึ่งใช้ข้อมูลใดก็ได้ เช่น วันติดตั้งบนแบตเตอรี่ บนสติ๊กเกอร์รับประกัน,ใบสั่งซื้อขาย หรือแซทการสั่งซื้อ 

5.ขอสงวนสิทธิ์ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การลากจูงรถยนต์ ค่าแรงในการถอดหรือติดตั้งแบตเตอรี่
หมายเหตุ : *วันที่ซื้อแบตเตอรี่ หมายถึง วันที่ทางร้านค้าได้ขายหรือติดตั้งแบตเตอรี่ ให้กับผู้ใช้ โดยจะระบุ เดือน/ปี ที่ซื้อ บนสติ๊กเกอร์รับประกันหรือทำเครื่องหมายบนแบตเตอรี่ หรือลูกค้าสามารถแอดไลน์ OA : @Polaiven และแจ้งวันที่ซื้อสินค้า เพื่อเป็นข้อมูลไว้กับทางร้านค้า
สามารถศึกษาเพิ่มเติมการดูแลแบตเตอรี่ได้ที่ Website: www.polaiven.com
โทรศัพท์ : 098-275-6558


การชาร์ตแบตเตอรี่สำหรับแบตลิเธี่ยม
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้ผลิตภัณฑ์นี้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โปรดอ่าน "คู่มือการใช้งาน" อย่างถี่ถ้วนก่อนใช้งานซึ่งสเปคของรถและชนิดของแบตเตอรี่มีผลต่อการเลือกใช้เครื่องชาร์ต
วิธีการชาร์จ
1. เมื่อจะใช้งานให้ เสียบปลั๊กที่เชื่อมต่อกับกล่องแบตเตอรี่ก่อนแล้วจึงเสียบปลั๊กไฟ AC เพื่อป้องกันการต่อผิดขั้ว
2. ระหว่างการชาร์จปกติ ไฟแสดงสถานะการชาร์จจะแสดงไฟสีแดง เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟแสดงสถานะการชาร์จจะแสดงไฟสีเขียว ในบางรุ่นจะมีระบบฟื้นฟูแบตเตอรี่ และมีบอกเปอร์เซนต์แบตเตอรี่ หากขึ้นถึง 80-100%แล้ว สามารถถอดออกได้ทันที
3. หลังจากที่แบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้ว (ไฟแสดงสถานะการชาร์จจะแสดงเป็นสีเขียว) หากคุณต้องการหยุดการชาร์จ คุณควรถอดปลั๊กไฟ AC ก่อนแล้วจึงถอดปลั๊กกล่องแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันสายไฟช็อต
4. สภาพแวดล้อมในการทำงาน -20 ℃ ถึง 40 ℃
5. หากใช้งานหรือปล่อยทิ้งไว้จนแบตเตอรี่หมด ควรฟื้นฟูแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน อย่าชาร์จแบตเตอรี่หลังจากใช้งานจนหมดเพื่อป้องกันการชาร์ตเกินและส่งผลให้แบตเตอรี่บวม
ข้อควรระวัง
●อ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดก่อนใช้งาน ●โปรดสังเกตเครื่องชาร์จ ว่าตรงรุ่นกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานหรือไม่ เครื่องชาร์ตสำหรับแบตลิเธี่ยมมีหลายชนิด และไม่ควรใช้กับเครื่องชาร์ตแบตตะกั่วกรด และเครื่องชาร์ตแบบตะกั่วกรดก็มีหลายชนิดเช่นกัน ซึ่งแบตเตอรี่ที่ใช้อาจเป็นลิเธียมแมงกานีสออกไซด์ แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต แบตเตอรี่ลิเธี่ยมNMC ฯลฯ
●อย่าชาร์จแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถชาร์จซ้ำได้
●ชาร์ตในสถานที่ชาร์จแบบรวมศูนย์หรือสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท ระวังอย่าให้โดนฝน (ห้ามชาร์จในทางเดิน ในอาคาร บริเวณที่พักอาศัย และพื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมา) เพราะอาจสะดุดสายไฟ ทำให้สายไฟหลวม เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้
●ในระหว่างขั้นตอนการชาร์จ ห้ามคลุมเครื่องชาร์จโดยเด็ดขาด และต้องวางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
●ภายในกล่องมีวงจรไฟฟ้าแรงสูง ผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด
● ห้ามมิให้วางเครื่องชาร์จในรถยนต์ไฟฟ้าหรือชาร์จบนรถยนต์ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด
●หากสายไฟชำรุด จะต้องเปลี่ยนโดยผู้ผลิตหรือแผนกบำรุงรักษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่คล้ายกันเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย และการต่อสายไฟผิดเส้น
●ก่อนที่จะเชื่อมต่อหรือถอดเครื่องชาร์จแบตเตอรี่และแบตเตอรี่ ให้ถอดแหล่งจ่ายไฟออกก่อน

เงื่อนไขในการรับประกันสินค้า
ทางโพไลเวน ขอขอบคุณที่ซื้อสินค้าของเรา ทางบริษัท รับประกันต่อผู้ใช้งานโดยตรงทุกท่าน และอนุญาตให้ใช้ตามคำแนะนำการใช้งานเหล่านี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้ดีและให้บริการการรับประกันฟรี รายละเอียดบริการรับประกันมีดังนี้
(1) เราให้บริการลูกค้าด้วยการรับประกัน 1 ปี และการบำรุงรักษา 1 ปี [การบำรุงรักษาต้องเสียค่าธรรมเนียม/อะไหล่เสริมที่เกี่ยวข้อง]
(2) หากจำเป็นต้องมีการรับประกัน ผู้ใช้จะต้องแสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นบัตรบริการการรับประกัน ใบสั่งซื้อ chat line OA ที่แสดงวันสั่งซื้อก่อน เพื่อให้มีผลบังคับ โปรดเก็บบัตรบริการการรับประกันไว้ในที่ปลอดภัย
(3) หากข้อบกพร่องจากการผลิตหรืออะไหล่เสีย เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาการรับประกัน เมื่อตรวจสอบแล้วได้รับการยืนยันจากบุคลากรด้านเทคนิคของโพไลเวน โพไลเวนจะซ่อมผลิตภัณฑ์นี้ให้ฟรี และบริการอะไหล่ทดแทน ซึ่งไม่รวมชิ้นส่วนที่เปราะบาง กรอบโครงรถ  โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อใช้งาน
(4) ชิ้นส่วนที่ถูกเปลี่ยนทั้งหมดจะเป็นของโพไลเวน

(5) การรับประกันไม่ครอบคลุมถึงค่าขนส่งไป-กลับ ที่อาจเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ทางโพไลเวนสามารถเรียกเก็บค่าจัดส่งได้ เว้นแต่ตกลงกัน
(6) ในกรณีต่อไปนี้ บริการรับประกันนี้จะใช้งานไม่ได้โดยอัตโนมัติ
6.1 หากไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทของเราหรือใช้เครื่องชาร์จอื่นที่ไม่ตรงกันในการชาร์จ หากแบตเตอรี่เสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ บริษัทขอสงวนสิทธิการรับประกัน
6.2 ใช้ก้อนแบตเตอรี่ที่มีการโอเวอร์โหลด ถอดแยกชิ้นส่วนแบตเตอรี่โดยไม่ได้รับอนุญาต การซ่อมแซมเอง ไม่มีหมายเลขซีเรียลของผลิตภัณฑ์ ไม่มีบัตรรับประกัน วัตถุแข็งถูกชนหรือความเสียหาย น้ำเข้า

6.4 ปัญหาด้านประสิทธิภาพ ความพึงพอใจ ที่ไม่เกี่ยวกับด้านคุณภาพฯลฯ 
6.5 ห้ามมิให้โยนแบตเตอรี่ลงน้ำหรือไฟหรือวางใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40°C (วางโดนแดด,วางในรถยนต์ที่จอดกลางแดด) ซึ่งส่งผลโดยตรงให้แบตเสียหายและไม่อยู่การรับประกัน
(7) กรณีที่เสีย โดยผู้ใช้งานเอง และยังอยู่ในการรับประกัน ทางเรายินดีซ่อมโดยไม่คิดค่าแรงและเปลี่ยนอะไหล่ในราคาพิเศษ

ปัญหาที่อาจพบและการแก้ไขเบื้องต้น
1. บิดสวิทซ์กุญแจแล้วไฟไม่ติด
เช็ค: แรงดันแบตเตอรี่มีเพียงพอหรือไม่
เช็ค: ฟิวส์ขาด
เช็ค:ปลั๊กเสียบแบตเตอรี่อาจหลวม
2. เปิดเครื่องแล้ว บิดมอเตอร์ไม่ทำงาน
เช็ค : แบตเตอรี่ชาร์ตไม่เข้าปลั๊กหลวม
เช็ค : กำเบรคหรือกดปุ่ม/สวิทซ์Parkอยู่หรือไม่
เช็ค : สายไฟฮับมอเตอร์หลวม เสียหาย หนูกัดสายไฟ สายไฟขาด
3. ความเร็วในการขับขี่ช้า ระยะขับขี่ไม่พอ
เช็ค : ยางลมอ่อน
เช็ค : แบตไม่ได้ชาร์ต แบตเสื่อมสภาพ
เช็ค : การบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป
เช็ค : สภาพอาการหนาวจัดหรือร้อนไป มีทางลาดชัน ลมแรง เบรคบ่อย
4. ไม่สามารถชาร์ตแบตเตอรี่ได้
เช็ค : แรงดันแบตเตอรี่เหลือน้อยเกินไป
เช็ค : แรงดันแบตเตอรี่เต็มอยู่
เช็ค : น็อตยึดสายไฟระหว่างแบตเตอรี่หลวม
เช็ค : เครื่องชาร์ตเสียไฟไม่ติด สายไฟขาด
เช็ค : ช่องเสียบตัวรถ หน้าสัมผัสไม่ดี มีสนิมเกาะ
เช็ค : ฟิวส์ขาดเนื่องจากชาร์ตสลับขั้ว มีน้ำขังในช่อง
5. มือบิดทำงานผิดปกติ เร่งเอง บิดไม่ไป
เช็ค : สปริงค์ด้ามจับความเร็วหลุดหรือหลวม
เช็ค : กรณีที่ไม่สามารถแก้ไขเองให้เข้าศูนย์บริการทันทีไม่ควรใช้งาน
6. ยางหลุดออกจากขอบ ยางรั่ว
เช็ค : ยางรั่ว ตรวจพบตะปูในยางหรือไม่
เช็ค : ลืมเติมลม ต้องใช้ปั้มลมขนาด20kgขึ้นไปเพื่อให้ยางขึ้นขอบ
เช็ค : ยางบดแล้วแตกด้านข้างให้เปลี่ยนเส้นใหม่
เช็ค : ปะยาง/ใส่ยางในชั่วคราวกรณียางนอกยังพอใช้ได้

การตรวจสอบและบำรุงรักษาเมื่อครบระยะ
การตรวจสอบและบำรุงรักษาฟรี!!! ภายใน60วัน ของศูนย์บริการโพไลเว่น เราเป็นผู้ผลิตเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่มีบริการหลังการขายยานพาหนะไฟฟ้าของเรา ระดับมาตรฐานสากล และเป็นศูนย์บริการเดียว!!!  ที่ยินดีซ่อมยานพาหนะไฟฟ้าในแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสกูตเตอร์ จักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า รถกอล์ฟ จักรยาน โดยใช้มาตรฐานสากล และอะไหล่ที่ดีที่สุดของโพไลเว่น ทั้งนี้เพื่อลดการเกิดขยะจากการไม่มีที่ซ่อม หรือสินค้าที่ซื้อจากต่างประเทศและนำเข้ามาเอง ไม่มีการรับประกันของผู้ขายในประเทศรายอื่น หรือไม่มีความชำนาญในการซ่อม เนื่องจากเป็นผู้นำเข้า ไม่มีหน้าร้าน ขายออนไลน์เท่านั้น  ไม่มีอะไหล่ หรือสถานที่ซ่อมอยู่ไกลจากแหล่งที่ซื้อ

โดยหัวข้อการตรวจมาตรฐาน  ลูกค้าสามารถตรวจสอบด้วยตนเอง  กรณีไม่ได้มาที่ศูนย์บริการได้เช่นกัน ซึ่งมีดังนี้
1. ตรวจสอบระบบเบรค
2. ตรวจสอบแรงดันลมยางทุกล้อ
3. ตรวจสอบการเชื่อมต่อแบตเตอรี่
4. ตรวจสอบสายไฟแน่นหรือไม่
5. ตรวจสอบแบตเตอรี่
6. ตรวจสอบเครื่องชาร์ต
7. ตรวจสอบน้ำมันเบรค
8. ตรวจสอบแสงสว่างของยานพาหนะ
9. ตรวจสอบสวิทซ์การใช้งานทุกจุด ฟังก์ชั่นพิเศษ
10. ตรวจสอบการยึดน็อตเพลาล้อหน้าหลัง
11. ตรวจสอบน็อตที่จับไมล์ความเร็ว
12. ตรวจสอบแฮนด์บังคับทิศทาง ขันคอ
13. ตรวจสอบการยึดเบาะเด็ก
14. ตรวจสอบบังโคลนหน้าหลัง
15. ตรวจสอบการหดตัวของโช็ค
16. การหล่อลื่นจุดหมุนต่างๆ และข้อต่อ
17. ตรวจสอบแผ่นสะท้อนแสงรอบคัน
18. ตรวจสอบตะกร้า จุดเก็บของที่เพิ่มเติม
19. ตรวจสอบระบบขาปั่น ใช้/ไม่ใช้
20. เช็ดทำความสะอาดเบื้องต้น

การบำรุงรักษาด้วยตนเอง ตรวจก่อนใช้งานทุกวัน
1. แฮนด์บังคับ หลวม ล้อไม่ตรง
2. โช็คหัก เบี้ยวผิดรูป
3. ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้ายติดอยู่ โดยเฉพาะไฟท้าย
4. เบรคสภาพพร้อมใช้งาน
5. สภาพยางและขอบล้อเบี้ยวเกิดการกระแทก
6. น็อตยึดจุดต่างๆหลวม ล้อหน้า/หลัง
7. แตรยังใช้งานได้
8. แบตเตอรี่ไม่บวม ไม่ได้ชาร์ตนานเกิน8ชม.
9. สายไฟเครื่องชาร์ตไม่ชำรุด
10. ระบบสัญญาณกันขโมยทำงาน
11. แผ่นสะท้อนแสงจุดต่างๆไม่สกปรก/แตก
12. ระบบอื่นๆเช่นถอยหลัง ล็อคความเร็ว

ขอขอบพระคุณอีกครั้งที่ผู้ใช้งานได้ศึกษาคู่มือการใช้งานรถจักรยานไฟฟ้าอ และทำความเข้าใจประสิทธิภาพของรถจักรยานไฟฟ้า อย่างละเอียดแล้ว คู่มือนี้สามารถใช้งานได้กับจักรยานไฟฟ้า ยานพาหนะไฟฟ้ายี่ห้ออื่นได้  ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่น และเรารู้สึกขอบคุณที่ได้ให้ "POLAIVEN" ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ